สาเหตุที่ทำให้นักลงทุนเจ๊งหนัก ดังนี้
.
1. สินค้ามีมูลค่าเกินความจริง
.
สินค้านั้นๆ มีการความคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้นจนเกิดความเป็นจริงไปมากๆ หรือที่เราเรียกว่า การปั่นราคา เพื่อการเก็งกำไร มากกว่าจะมองมูลค่าของสินค้านั้นจริงๆ
.
2. ความโลภ
.
เปลี่ยนจากการลงทุนบริหารความเสี่ยง การลงทุนตามมูลค่าที่คาดการณ์ตามพื้นฐาน กลายเป็นการเข้าซื้อเล่นสั้นเพื่อเก็งกำไรตามกระแส
หวังซื้อแพงไปขายแพงกว่า การที่เล่นด้วยความโลภ ไม่มีสติ
ที่สำคัญ เล่นเหมือนการพนันหวังรวยง่าย รวยไว รวยเร็ว
.
3. เมื่อมีคนเอ๊ะใจ เมื่อไหร่
.
เมื่อไหร่ที่มีคนเริ่มเอ๊ะใจว่า ถ้าซื้อราคานี้ จะไปขายใครได้ที่ราคาไหน
เมื่อไหร่ที่มีคนเริ่มเอ๊ะใจว่า ทำไมซื้อแล้วขายยาก ไม่ขายง่ายเมื่อก่อนหน้า
เมื่อไหร่ที่มีคนเริ่มเอ๊ะใจว่า ส่วนต่างกำไรเริ่มลดลง หรือ หายไป
เมื่อไหร่ที่มีคนเริ่มเอ๊ะใจว่า ขายเอากำไรยาก ขายเท่าทุนยังลำบาก
เมื่อไหร่ที่มีคนเริ่มเอ๊ะใจว่า ขายเอาทุนคืน หรือ ขาดทุนก็ยังดี
.
เมื่อนั้น แพนิคของความกลัว แรงขายก็จะมา
แล้วก็จะแข่งกันลดราคาสินค้าลงเรื่อยๆ
จากกำไรมาก เหลือ กำไรน้อย เหลือ เท่าทุนก็เอา เหลือ ขาดทุนก็ยอม
การจบรอบของการเก็งกำไรก็จะเกิดขึ้น
กลับไปสู่มูลค่าที่แท้จริง และอาจจะเหลือต่ำกว่ามูลค่า เพราะว่าสินค้านั้นจะมีมากเกินความต้องการ
.
ตอนราคาขึ้น สินค้ามีน้อยกว่าความต้องการ สินค้าจึงแพงขึ้น
ตอนราคาลง สินค้ามีมากกว่าความต้องการ สินค้าจึงถูกลง
.
ดังนั้น เมื่อสินค้ามีจำนวนมาก ไม่เป็นที่ต้องการ มูลค่าจึงหายไป
.
จากเหตุการณ์เหล่านี้
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
มีสถานการณ์อะไรที่คุณคิดออกบ้าง
.
คุณลองคิดถึงในปัจจุบัน
คุณลองคิดถึงประสบการณ์การลงทุนของคุณ
คุณคิดว่ามีสินค้าอะไรที่คุณเห็นว่า
มีสถานการณ์คล้ายเหล่านี้บ้าง
.
ลองมาแชร์กันดูนะครับ
#เงินอยู่ในหัวจะกลัวอะไร
#เบิร์ดสแกนหุ้น
#อย่าเชื่อผมจงเชื่อกราฟ #รักนะสแกนหุ้น