การลงทุนหรือการเป็นเทรดเดอร์ ทุกครั้งของการเทรด ย่อมส่งผลให้เกิดสองสิ่งอยู่เสมอ คือ กำไร และ ขาดทุน
.
การอยู่ในตลาดทุน มีสองสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และต้องพบเจอมันอยู่เสมอ คือ การได้กำไรและการขาดทุนเป็นเรื่องปกติ ที่เราต้องเข้าใจและยอมรับเมื่อเกิดมันให้ได้
.
ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆที่ทุกคนลงทุนหรือเทรดย่อมต้องอยากได้กำไรเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีใครเข้ามาในตลาดนี้แล้วอยากจะขาดทุนอย่างแน่นอน การโฟกัสที่พยายามหากำไรจากตลาดจึงเป็นเป้าหมายของทุกคนในตลาด
.
แต่บางครั้งและบางคนก็อาจจะเผลอลืมไปว่า การที่เราคิดว่าเราจะกำไรทุกครั้งที่เข้ามาเทรด มันเป็นไปได้ยากมากๆ และมีเพียงคนส่วนน้อยที่น้อยมากๆจะทำได้ การที่พยายามจะทำให้ได้กำไรทุกครั้งไม่ขาดทุนเลย บางทีอาจจะเป็นการกดดันตัวเองมากเกินไป จนส่งผลให้ไม่กล้าที่จะลงทุนหรือรับความเสี่ยงก็ได้ ส่งผลกระทบให้สุดท้ายไม่กล้าที่จะลงทุนเพราะกลัวขาดทุน หรือต่อให้กำไรมาหลายครั้ง แทนที่จะมีความสุข แต่พอขาดทุนแค่ครั้งเดียว กลับมองว่าเป็นทุกข์ที่ใหญ่กว่ากำไรที่ได้มาทั้งหมด ซึ่งมันไม่ควรต้องเป็นแบบนั้นเลย
.
การที่จะโฟกัสให้ได้กำไรทุกครั้ง อาจจะเป็นแนวคิดที่สุดโต่งไปหน่อยก็ได้ และหลายหลายครั้งทำให้ เราพยายามจะรีบเอากำไร จนเสียโอกาสในการรันเทรน ในเวลาที่เหมาะสม จนพลาดโอกาสกำไรคำใหญ่ใหญ่ไปก็ได้
.
ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ การวางกำไรเล็กน้อยทุกครั้ง ก็ทำให้เราพลาดโอกาสกำไรใหญ่ในบางครั้งเช่นกัน หรือการที่พยายามจะเอากำไรคำใหญ่มากเกินไป ก็ทำให้ผิดพลาดปล่อยให้กำไรกลายเป็นขาดทุนและเสียหายเกิดขึ้นได้
.
ดังนั้นแล้วการที่เราต้องมีความรู้ความเข้าใจ กันลงทุนมีกำไรและขาดทุนเป็นเรื่องปกติ อีกทั้ง การจะเล่นรอบเล็กหรือรอบใหญ่ ไม่ใช่เราเป็นผู้กำหนด แต่อยู่ที่ตลาดเปิดโอกาสให้เราในรูปแบบแบบไหนมากกว่า เราก็แค่หาจังหวะและโอกาสไปตามสภาวะตลาดนั้นนั้น จึงจะส่งผลดีกับเรา
.
และสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ ตัวเราเองนั่นแหละ ที่มีความรู้ความสามารถ การรับความเสี่ยง การบริหารเงินลงทุน และความถนัด ในการลงทุนในการเทรดสไตล์ไหนบ้าง ยิ่งเรามีความรู้ความสามารถมาก เราจะเห็นโอกาสมาก แต่หากเรามีความรู้ความสามารถน้อย เราก็ต้องยอมรับว่าเราจะมีโอกาสน้อยลง
.
และในบางครั้ง เราอาจจะเห็นคนอื่นทำกำไรได้ดี แต่เรามองไม่เห็นโอกาสนั้น และทำให้พลาดไป อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้เตรียมพร้อมเพื่อรอรับโอกาสนั้นตั้งแต่แรก จึงพลาดโอกาสไม่ใช่เรื่องแปลก หรือ เราอาจจะมีความรู้ความสามารถไม่พอ จึงมองหาโอกาสไม่ได้กับคนอื่นเขา เราก็ต้องยอมรับ หรือ เราอาจจะไม่ถนัดสไตล์ที่คนอื่นเค้าทำกำไรกันอยู่ เราก็ต้องยอมเสียโอกาสนั้นไป หรือจะหาโอกาสเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง ให้มีความรู้ความสามารถในเรื่องนั้นนั้นบ้าง เพื่อเพิ่มโอกาสมากขึ้น
.
ส่วนตัวผมเองนั้นมองว่า การยึดติดว่าต้องกำไรทุกครั้ง เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเลย เพราะสิ่งที่สำคัญกว่า คือการหากำไรสะสมเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยเรื่อย หรือถ้าหากว่าผิดพลาดขาดทุนขึ้นมาวันไหนก็ตาม หรือจังหวะออกออเดอร์ครั้งไหนก็ตาม เรามีความรู้ความสามารถมากพอที่จะแก้ไขให้การขาดทุนกลับมาเป็นกำไรได้หรือไม่ สิ่งนี้สำคัญมากกว่า
.
เพราะหากกำไรตั้งแต่แรกเป็นเรื่องปกติที่น่ายินดี และทำให้เกมหลังจากนั้นง่ายมากขึ้นอยู่แล้ว แต่หากผิดพลาดขาดทุนเมื่อไหร่ แล้วเรามีความรู้ความสามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นกำไรได้ สิ่งนี้และสำคัญมากกว่า เพราะมันจะทำให้โอกาสผิดพลาดขาดทุนของคุณลดน้อยลงไปเรื่อยเรื่อย
.
ถ้าจะให้ผมบอกกับนักลงทุนหลายหลายคน ผมอยากจะย้ำว่า อย่าไปยึดติดกับการที่ต้องได้กำไรทุกครั้ง และจะพลาดขาดทุนไม่ได้ ต้องยอมรับว่ากำไรและขาดทุนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้เสมอ อยากให้โฟกัสไปที่ผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่าครับ ว่าเราสามารถทำกำไรสะสมได้มากกว่าขาดทุนหรือไม่ และเมื่อขาดทุนแล้ว รู้หรือไม่ว่าขาดทุนเพราะอะไร และจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างไรครับ
.
อีกหนึ่งสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ก็คือ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ให้คุณค่ากับการศึกษาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองมากขึ้น ให้สามารถเห็นโอกาสมากขึ้น เมื่อไหร่ที่เราหยุดเรียนรู้ หรือคิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้แล้ว เท่ากับว่าเราเริ่มเปิดประตูในการแพ้และกำลังเตรียมตัวจะขาดทุนแล้วนั่นเอง
.
ย้อนไปดูนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จทุกท่านได้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกคนให้ความสำคัญกับการศึกษาหาความรู้ทั้งสิ้น ยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จมากยังศึกษาหาความรู้และอ่านหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
.
แล้วทำไมบางคนถึงคิดว่าการเรียนรู้ไม่สำคัญ
.
#ขาดทุนเกินราคาของความรู้กันไปเท่าไหร่แล้ว
#เพราะราคาของความไม่รู้แพงกว่าเสมอ
#รู้อะไรไม่สู้รู้งี้มาเรียนSITCLASS_SITTFEXนานแล้ว
#ทำตามระบบเทรดBirdTheoryดีเสมอ
#อย่าเชื่อผมจงเชื่อกราฟ ดูน้อยลง