วัฎจักรของธุรกิจ

วัฎจักรของธุรกิจ จะมีไซเคิลหรือเวฟอยู่ 5 ระดับ 

โดยในแต่ละระดับของเวฟนั้น จะแทนที่ด้วยคนในแต่ละกลุ่ม

คนกลุ่มเวฟที่ 1 : เมื่อแนวโน้มของธุรกิจนั้นเริ่มมา คนส่วนน้อยเท่านั้นที่เริ่มมองเห็นและรู้สึกถึงแนวโน้มนั้น มองเห็นอนาคตที่กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

แต่ว่าคนส่วนมากจะยังมองไม่เห็น บางคนไม่คิดว่าจะมาจริง มองว่าสิ่งๆ นั้นเป็นสิ่งไม่สำคัญ 

อย่างเช่น ธุรกิจออนไลน์เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว หลายๆ คนยังไม่คิดว่ามันจะเติบโตได้ขนาดนี้ หลายๆ คนยังยึดติดกับการที่ขยายสาขาเป็นออฟไลน์ มากกว่าจะปรับตัวเป็นออนไลน์ทำตัวเป็นฮับขยายธุรกิจไปทางด้านออนไลน์

.

คนกลุ่มเวฟที่ 2 : แนวโน้มของธุรกิจนั้นเริ่มเข้ามาแทนที่สิ่งเดิมๆ บ้างแล้ว เริ่มมีคนเริ่มเห็นความสำคัญของแนวโน้มธุรกิจนั้นมากขึ้น บางคนที่ไวหน่อยก็จะเริ่มเข้ามาปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเตรียมพร้อมเอาไว้กับการเปลี่ยนแปลงกระแสที่กำลังจะเข้ามา

แต่บางคนก็ยังไม่เข้าใจ และ คิดว่ามันยังไม่สำคัญอยู่ อย่างเช่น ตอนเริ่มมีการทำออนไลน์เพิ่มมากขึ้น คนบางคนเริ่มศึกษาตลาดออนไลน์ และ เริ่มวางโครงสร้างทีมตลาดออนไลน์ ในขณะที่บางคนก็ยังมองว่าทำออฟไลน์เหมือนเดิมได้อยู่ ตลาดออนไลน์ไม่จำเป็น ต่อให้มีคนชวนก็ไม่สนใจ

.

คนกลุ่มเวฟที่ 3 : แนวโน้มของธุรกิจนั้นเริ่มชัดเจนจนเป็นกระแสเพิ่มขึ้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คนเริ่มพูดกันถึงมากขึ้น คนเริ่มทำธุรกิจแนวโน้มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นช่วงที่กระแสกำลังเติบโตอย่างนั้นได้ชัด คนจะเริ่มแตกตื่น แปลกใจ และตกใจกับสิ่งๆ นั้น มีความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งๆ นั้นเพิ่มขึ้น

คนกลุ่มเวฟ 3 จะเติบโตไวมากในช่วงนี้เพราะได้เตรียมโครงสร้างพื้นฐานไว้ก่อนแล้ว ทำให้เหมือนกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดพาไปได้ไวมาก

แต่ก็จะยังมีบางคนที่เมื่อก่อนยังไม่เคยสนใจ เริ่มสนใจอยากศึกษา แต่ก็ช้าไปขั้นหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงกับสายไป คนกลุ่มนี้เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับแนวโน้มนี้มากขึ้น

แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มที่คิดว่าเดี๋ยวก่อนก็ได้ จนกระทั่งแนวโน้มธุรกิจเดิมเริ่มมีผลกระทบ จึงจะเริ่มรู้สึกตัวหาทางออกใหม่ๆ อย่างเช่น ตลาดออนไลน์คนเปิดขายของกันหลากหลายมากมาย สินค้าหลากหลายเริ่มออกมาทำขายกัน ตั้งแต่สินค้าความงามยันยารักษาโรค มากมายหลายอย่าง

ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงกระแสแรงที่สุดของธุรกิจแนวโน้มนั้น การเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างจะรุนแรงมากที่สุดในช่วงนี้ มีการเกิดใหม่และหายไปมากที่สุด เราจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงและผันผวนได้มากที่สุด อย่างเช่น ธุรกิจครีมทาตัว ครีมเคลือบผิวขาว อาหารเสริมบางอย่าง เป็นต้น

.

คนกลุ่มเวฟที่ 4 : แนวโน้มของธุรกิจนั้นติดกระแสเรียบร้อย จนเหมือนกันว่าใครไม่สนใจเป็นเรื่องแปลก ใครไม่รู้ว่ามีแนวโน้มธุรกิจนั้นอยู่เป็นคนตกยุคไป คนที่ทำก่อนอย่างกลุ่มเวฟ 2 เติบโตติดลมบนสบายตัว คนกลุ่มเวฟ 3 เริ่มหันมาเรียนรุ้เตรียมปรับโครงสร้างทำธุรกิจ

ส่วนคนในกลุ่มที่ 4 นั้นเริ่มคิดว่าต้องเข้ามาแนวโน้มนี้แล้ว ต้องทำแล้ว อยากทำแล้ว เพราะมองไปทางไหนกระแสแนวโน้มธุรกิจนั้นก็มีอยู่เต็มไปหมด ใครไม่พูดเรื่องแนวโน้มธุรกิจนั้นเหมือนเป็นคนนอกกระแสไปเลย

คนกลุ่มน้อยมากๆ ที่จะยังไม่รู้เรื่องตลาดออนไลน์ บางคนศึกษาจนรู้แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มทำ ในขณะที่แนวโน้มของธุรกิจนั้นในเวฟนี้จะเริ่มคัดกรองบางส่วนที่ไม่เก่งจริงหรือแข็งแรงจริง โครงสร้างไม่ดีจริง ค่อยๆ หายไป

.

คนกลุ่มเวฟที่ 5 : แนวโน้มช่วงตามกระแส เป็นช่วงปลายของแนวโน้มธุรกิจนั้นๆ อาจจะไม่ได้หายไปเลย แต่จะไม่ได้บูมเติบโตได้ง่ายๆ แบบในตอนกลุ่มเวฟ 3 ช่วงแนวโน้มเวฟ 5 นี้จะเหมือนทรงคงที่มากกว่าที่จะโตแบบก้าวกระโดด

แนวโน้มธุรกิจช่วงนี้ยังคงทำได้แต่จะไม่ง่ายแบบเวฟก่อนๆ รายที่อ่อนแอไม่แข็งแรง ไม่ใช่ตัวจริง หรือไม่มีจุดเด่น จะล้มหายตายจากออกไปจากธุรกิจ คนที่อยุ่รอดได้อาจจะเป็นคนที่อยุ่มาก่อนจนรากฐานมั่นคงและปรับเปลี่ยนโครงสร้างได้ตามแนวโน้มที่คงอยุ่ เพราะอยุ่กับแนวโน้มตลาดมาตั้งแต่กลุ่มเวฟ 2-3 ทำให้แม้ไม่ได้เติบโตในแนวโน้มธุรกิจนั้นๆ แต่ก็มีประสบการณ์จนพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนไปตามกระแสแนวโน้มธุรกิจใหม่ๆ

กลับกัน คนที่เพิ่งกระโดดเข้ามาตอนเวฟกลุ่ม 5 เหมือนเข้ามาแทะเนื้อติดกระดูก หากไม่เก่งจริงๆ หรือมีพื้นฐานพร้อมอยุ่ก่อนแล้ว ยากที่จะไปรอด คนจำนวนมากที่เข้ามาตอนเวฟ 5 จะไม่รอดและเจ็บตัวหนักกลับไป คนที่อยู่รอดมาก่อนก็จะคงสินค้าเก่าไว้ และ เปิดตัวหาแนวโน้มธุรกิจใหม่ที่พร้อมเติบโตให้ตนสามารถคงอยู่ในธุรกิจได้ต่อไป

ช่วงปลายเวฟ 5 เราไม่รู้ได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ หรือจะจบลงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ช่วงปลายของมันจะมีแนวโน้มสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาต่อให้คนอย่างกลุ่มเวฟที่ 1 ได้เห็น และเริ่มปรับเปลี่ยนเตรียมโครงสร้างเอาไว้ในแนวโน้มกระแสต่อไป

หรือไม่แน่ อาจจะเกิดการพัฒนาสินค้า ในธุรกิจแนวโน้มเก่าเอามาพัฒนาแล้วนำกลับมาเริ่มเข้าสู่แนวโน้มกลุ่มเวฟแรกใหม่ก็ได้ เช่น ธุรกิจชานมไข่มุก ซึ่งแต่ก่อนเคยบูมมาแล้วยุคหนึ่งแล้วเงียบหายไป จากนั้นปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบกลับมาบูมใหม่อีกครั้ง

แนวโน้มธุรกิจนี้ใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านชานมไข่มุก ฟิตเนทเซ็นเตอร์ เครื่องสำอางค์ ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นเองก็เช่นกัน

.

แล้วคุณล่ะ คิดว่าตอนนี้ คุณอยู่ในกลุ่มเวฟใดของธุรกิจที่คุณอยู่ ???

#อย่าเชื่อผมจงเชื่อกราฟ

#เงินอยู่ในหัวจะกลัวอะไร

#เบิร์ดสแกนหุ้น