1) จัดระเบียบ “ใจ” ก่อนกดปุ่ม
- ตั้งกรอบเวลา: วันนี้เราทำได้แค่ “รอ + ปกป้องทุน” ไม่ใช่ “ฮีโร่ทำกำไรใหญ่” — แค่ปรับความคาดหวัง
อึดอัดจะเบาลงทันที - แยก “ความกลัวตกรถ” ออกจากสัญญาณจริง: ถ้ายังไม่มีสัญญาณจากแผน → ถือว่า
“ยังไม่ถึงตาเรา” = ไม่เทรด - กฎ 2 นาที: รู้สึกอยากกดเพราะกลัวพลาด ให้ลุกไปเดิน/ดื่มน้ำ 2 นาทีแล้วค่อยดูใหม่ ความอยากจะตกลงเกือบครึ่ง
- สมุดบันทึกอารมณ์ (1 บรรทัด/วัน): วันนี้อารมณ์อะไรครอบงำ + ให้คะแนน 1–5 ถ้าคะแนนอารมณ์เกิน 3 วันติด ให้ลดขนาดไม้ลงครึ่ง
- จำกัดเวลาหน้ากราฟ: ช่วงตลาดแคบ ดูกราฟเป็นรอบ ๆ (เช้า-บ่าย-ปิด) แทนการเฝ้าทั้งวัน
ลด FOMO/overtrade - ย้ำคติสั้น ๆ: “ไม่ชัด = ไม่แม่น = ไม่เอา” แปะไว้หน้าโต๊ะเลย
2) กรอบการตัดสินใจ 3 ขั้น (ง่ายแต่โคตรเวิร์ก)
- ถาม 3 ข้อก่อนทุกการเทรด:
① โซนราคาอยู่ “กลางกรอบ” หรือ “ใกล้ขอบกรอบ”? (กลาง = หลีกเลี่ยง)
② ถ้าเข้าไม้แล้ว “ผิดทาง” จะคัทที่ไหน (เป็นตัวเลข)
③ RR ≥ 1:2 ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ ไม่เอา
- ตอบ “ใช่ครบทั้ง 3” ค่อยเทรด ถ้า “ไม่” ข้อเดียว = ไม้เสี่ยง
3) กลยุทธ์ทำเงินในตลาดแกว่ง
- ซื้อ-ขายที่ “ขอบกรอบ” ไม่ใช่ “กลางกรอบ”
- แนวรับ: รอแรงซื้อยืนยัน (แท่งกลับตัว/ไส้ยาว/ปริมาณเพิ่ม) แล้วค่อยรับ
- แนวต้าน: รอแท่งอ่อนแรง/สัญญาณกลับตัวค่อยขาย/ชอร์ต
- วาง Stop สั้นหลังจุดพังกรอบเล็ก ๆ แล้ว “ลดขนาดไม้” ให้สอดคล้อง (สตอปสั้น ≠ ใส่ใหญ่)
- เล่นสั้น-เอาเร็ว: ตั้งเป้า TP แถวกลางกรอบ/เส้นค่าเฉลี่ยสั้น ไม่หวังยาว (ตลาดยังไม่เลือกทาง)
- ใช้ “ถ้ากรอบแตก คัททันที” ห้ามเถียงตลาด แล้วรอจังหวะ “กลับเข้า” ด้วยแผน “ตามน้ำหลังเบรก”
4) แผนสองหน้ากระดาษ: “ยังแกว่ง” vs “เบรกออก”
- ถ้ายังแกว่ง
- จุดทำการ: ขอบล่างรอรับ / ขอบบนรอขาย
- Stop: หลุดกรอบ 0.5–1.0×ATR
- เป้า: กลางกรอบหรือ -10~20% จากขอบฝั่งตรงข้าม
- ถ้าเบรกออกจริง
- รอ “ Back Test ” แล้วค่อยเข้า “ ตามน้ำ ”
- ใช้ Buy-stop/Sell-stop
- ขยับ SL ปล่อยให้กำไรวิ่ง
5) สูตรตั้งขนาดไม้ (Position Size) ง่ายที่สุด
- เสี่ยงต่อดีล = 0.5–1.0% ของพอร์ต (ช่วงตลาดอึดอัดให้ใช้ฝั่งล่างของช่วง)
- ขนาดไม้ = (เงินที่ยอมเสี่ยง) ÷ (ระยะ Stop เป็นหน่วยราคา/จุด/ pip)
- ถ้า Stop ต้องกว้างขึ้น → ขนาดไม้ต้องเล็กลงอัตโนมัติ
6) สัญญาณ “ตลาดแคบจริง” (เอาไว้เช็ค ไม่ต้องเทคนิคเยอะ)
- แท่งราคาสั้นลงต่อเนื่อง / ปริมาณซบเซา
- ค่าเฉลี่ยบีบเข้าหากัน
- ช่วงแกว่งอยู่ในกรอบชัดเจน
7) ตัวอย่างแผนย่อยตามตลาด (ปรับเลขตามสินทรัพย์จริง)
- หุ้น SET (สะสม/สwing): ซื้อใกล้โซนรับของหุ้นพื้นฐานดีที่ “ไม่หลุดแนวรับใหญ่” ตั้ง Stop ใต้แนวรับ 1–2% เป้าเคลื่อนกลับค่าเฉลี่ย 20–50 วัน
- TFEX: เทรดเฉพาะ “แตะขอบกรอบ” ชัด ๆ ใน TF 15–60 นาที Stop 3–5 จุด เป้า 5–8 จุด ไม่เทรดช่วงกลางวันนิ่งจัด
- Forex: โฟกัสช่วง ตลาดกลางคืน เล่นในกรอบชัดเจน
- Crypto: 24/7 เลือก “ชั่วโมงเทรดส่วนตัว” ไม่ไล่ทั้งคืน ใช้รับ-ขายที่ขอบช่องราคา
เช็กลิสต์ก่อนเข้าเทรด (ติ๊กครบค่อยลั่นไก)
- อยู่ใกล้ “ขอบกรอบ” ชัดเจน
- มีสัญญาณยืนยัน (แท่งกลับตัว/วอลุ่ม/โซนรับ-ต้านทำงาน)
- RR ≥ 1:2 และรู้ “จุดคัท” เป็นตัวเลข
- ขนาดไม้คำนวณแล้ว (เสี่ยง ≤ 1% พอร์ต)
- ไม่มีอารมณ์รีบ/กลัวตกรถครอบงำ (กฎ 2 นาทีผ่านแล้ว)
8) รูทีนสั้น ๆ ลดความกังวล (เช้า-เย็น วันละไม่เกิน 20 นาที)
- เช้า: ขีดกรอบรับ-ต้าน / ตั้งคำสั่งแจ้งเตือนราคา / เลือก “แค่ 1–2 สินทรัพย์” ที่ตรงแผน
- เย็น: ทบทวน 3 บรรทัด — (เข้า-ออกที่ไหน ทำไม / รู้สึกอย่างไร / บทเรียนพรุ่งนี้)
- ศุกร์: ปิดสัปดาห์ ลดเลเวอเรจ-ลดไม้ ถ้าผันผวนแคบต่อเนื่อง
9) กฎ 3 ไม่ (ช่วงตลาดอึดอัด)
- ไม่ไล่กลางกรอบ
- ไม่เพิ่มไม้เพื่อเอาคืน
- ไม่ฝืนมุมมองตัวเองเมื่อกรอบ “แตกจริง”
10) เวอร์ชัน “ลงทุนสะสม” (สายพื้นฐาน)
- ใช้ DCA เฉพาะ “โซนล่างของกรอบใหญ่” และ “ธุรกิจที่งบไม่เสียโครงสร้าง”
- ตั้ง “ช่วงเว้นระยะ” ที่ยืดออก (เช่น จากทุกสัปดาห์ → ทุก 2–4 สัปดาห์) จนกว่าจะเห็นแนวโน้มชัด
- เงินสดคือออปชัน: กันสำรองไว้ 30–50% เพื่อรับโอกาสตอนตลาดเลือกทาง
11) เวอร์ชัน “เก็งกำไร” (สายสั้น)
- เล่นน้อยแต่คม: 0–2 ดีล/วันพอ
- เลือกจังหวะ: ขอบกรอบ/เบรกจริงเท่านั้น
- จบแล้วจบ: ได้เป้า = ออก ไม่เพิ่มไม้กลัวย่อ
⸻
สรุปให้สั้นมาก
- ตลาดแคบ = เล่นชิดขอบกรอบ, Stop ชัด, TP เร็ว, ไม้เล็ก
- เบรกจริง = ตามน้ำหลังทดสอบกลับ
- ไม่ชัด = ไม่เทรด โฟกัสปกป้องทุน + รอจังหวะใหญ่
#เพราะราคาของความไม่รู้แพงกว่าเสมอ #ขาดทุนเกินค่าเรียนกันไปเท่าไหร่แล้ว
#รู้อะไรไม่สู้รู้งี้มาเรียนSITCLASS_SITTFEXนานแล้ว
————————————————————