“นักลงทุนมือใหม่” อ่านไว้ ได้ใช้แน่

จากเท่าที่ผมสัมผัสจากคนรอบตัวผม ตอนนี้มีหลายๆ คนอยากเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเห็นคนที่เข้ามามีกำไร อยากมีเรื่องให้คุยอย่างเขาบ้าง จึงเริ่มคิดหาหนทางที่จะเข้ามาในตลาด แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรตรงไหนดี มันดูยากไปซะหมด ผมจะค่อย ๆ บอกไปทีละข้อ ๆ นะครับ

1. การเริ่มต้นเล่นหุ้นของคนที่ไม่รู้อะไรเลย

เขาคุยภาษาอะไรกัน ศัพท์ต่าง ๆ ช่างไม่คุ้นหู มันแปลกใหม่ไปซะหมด ของแบบนี้ไม่ต้องแปลกใจครับ ใคร ๆ ก็งง เพียงแต่คุณต้องให้เวลาศึกษาเรียนรู้มันแล้วคุณจะรู้จักศัพท์เหล่านั้นขึ้นเอง ไม่ต่างอะไรกับยามคุณได้มือถือมา คุณก็ต้องมาหัดเรียนรู้ว่า ตรงไหนใช้ทำอะไร เขาเรียกว่าอะไร พอคุณใช้เวลากับมันสักพักคุณจะรู้เรื่องเอง

2. เริ่มต้นหาความรู้จากไหนดี

ผมย้ำเสมอว่า ไม่จำเป็นเลยที่ต้องไปลงคอร์สเรียนราคาแสนแพงให้เปลืองเงินทอง หรือถ้าคุณรวยก็แล้วแต่คุณ สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องเรียนรู้ มันมีอยู่แล้วทั้งหมดในโลก Internet ล้วนแล้วแต่เป็นของฟรี อยากฉลาดไม่ใช่ใช้เงิน แต่ใช้เวลาและความพยายามทุ่มเทกับมัน ผมคนนึงละที่ไม่เคยไปเสียเงินลงเรียนที่ไหน เพราะไม่มีเวลาต้องทำงานประจำ ผมก็ใช้เวลาว่างหลังเสร็จงาน หรือตอนค่ำก่อนนอน หาอ่านไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้มากขึ้นเอง แค่รู้จักขวนขวายเท่านั้น ก็อยากได้ตังค์ก็ต้องขยันกันหน่อย รักสบายแบมือเป็นขอทานไม่ใช่นิสัยผม

3. จะเล่นแบบลงทุนพื้นฐานหรือเก็งกำไร แบบไหนดีกว่ากัน

การเล่นหุ้นแบบพื้นฐานหรือเก็งกำไรนั้น ต่างมีข้อดีข้อเสียในตัวของมันเอง มันเทียบกันไม่ได้ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่นิสัยคุณเป็นคนอย่างไร ถ้าคุณสามารถซื้อแล้วถือลืมไปไม่ต้องเปิดดูพอร์ตได้สบาย ๆ และซื้อหุ้นเฉพาะตัวที่คุณรู้จักมันดี คุณจะเล่นพื้นฐานก็ได้ แต่ถ้าคุณใจร้อนอยากได้เงินไว หุ้นตัวนั้นทำอะไรไม่จำเป็นต้องรู้จัก คุณก็ควรหันมาเล่นเก็งกำไร ทำอะไรก็ได้ให้ตรงกับลักษณะและนิสัยของคุณ แต่ส่วนตัวผมมองว่า มีความรู้ไว้ทั้งสองเรื่องดีกว่า แต่เป็นตัวนำตัวตามกันแทน เอาสิ่งที่ถนัดเป็นหลัก อีกแบบเป็นตัวเสริม เพราะมันจำเป็นต้องมีทั้งสองอย่าง แล้วค่อยมาผสมผสานสัดส่วนตามคุณถนัด

4. มือใหม่ควรเล่นหุ้นกลุ่มไหน พื้นฐาน หรือ หุ้นปั่น

หุ้นกลุ่มไหนนี่ผมบอกเลยว่า หุ้นทุกตัว ผมมองว่าปั่นด้วยกันทั้งนั้น ถ้าจะทำให้มันขึ้น ดังนั้นเลิกแบ่งแยกหุ้นโดยใช้ความคิดเหล่านี้ หากถามว่าจะเล่นหุ้นกลุ่มไหน ผมแนะนำให้เล่นในหุ้นที่คุณรู้จักมันว่ามันทำอะไร หรือ คุณสามารถวางแผนการเล่นกับมันได้ ไม่ว่ามันจะขึ้นหรือลง หุ้นที่จะซื้อควรมีแล้วสบายใจ ถ้ามีแล้วไม่รู้อะไร ขึ้นก็กังวล ลงก็กังวล อย่ามีดีกว่า

5. ถ้าจะเริ่มศึกษาวิธีการเก็บหุ้นแบบพื้นฐานทำอย่างไรดี

มีหลาย ๆ คนบอกผมว่า อยากซื้อหุ้นเก็บออม ไม่ต้องการ Cut loss สามารถซื้อสะสมลงทุนได้เป็นปี ถ้าคุณมาแนวนี้ผมแนะนำให้คุณซื้อหุ้นด้วยวิธี DCA ไปลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะครับ อ่อ บอกก่อนนะ ผมไม่ถนัดพวกพื้นฐานเลย

6. ถ้าจะเริ่มศึกษาแนวเทคนิคอลทำอย่างไร

อ่านเยอะ ๆ หาความรู้เยอะ ๆ ดูกราฟเยอะ ๆ ใน Internet มีเยอะแยะไม่ต้องไปเสียเงินก็ได้ ค่อย ๆ เรียนรู้เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่เอาแค่เครื่องมือพื้นฐานก่อนก็ได้ ไม่ต้องไปคิดใช้อะไรให้ยุ่งยาก แค่พวก EMA, MACD, SSTO, RSI, แท่งเทียน พวกนี้เป็นต้น

7. อยากให้แนะนำหนังสือ

ให้เงินทำงาน, 7 เทคนิคฟันกำไรหุ้นเดย์เทรด, มหัศจรรย์แห่งเทคนิค, เกมการเงินของคนรวย, ชาร์ตแพทเทิร์นเพื่อการวิเคราะห์หุ้น, มหัศจรรย์กราฟหุ้น

8. ผมเทรดแนวไหน

เทคนิคคอลล้วน ๆ เลยครับ

9. ผมหาหุ้นจากไหนมาเล่น

ผมเคยบอกไปแล้ว ผมก็ดูตลาด ดูทิกเกอร์ ดูสิ่งที่มีอยู่ใน streaming มีอยู่ใน Internet นั่นแหละ แล้วมาดูกราฟเอาง่าย ๆ แค่นั้น คนหลาย ๆ คนชอบทำอะไรยากๆ หลักการพิสดาร หรือใช้ศัพท์แปลก ๆ มันดูเก่ง มันดูเท่ห์ มันดูฉลาดมากกว่าคนอื่นทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าไม่รู้ ได้กำไรมั่งรึเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ผมทำง่าย ๆ ใช้แต่พื้นฐาน แล้วได้กำไร แถมมีมาแบ่งปันคนในเพจกำไรตามมาตลอดหลายเดือน ผมพอใจละ

10. เวลาดูกราฟผมใช้เครื่องมืออะไรบ้าง

ผมลงกราฟให้ดูตั้งหลายรูปละ ว่าสิ่งที่ผมใช้ก็มีแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นผมใช้แต่ของง่าย ๆ พื้นฐาน แต่ผมรู้จักมันดี และผมใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดแค่นั้น อย่างที่เห็น มี แท่งเทียน, เทรนไลน์, รูปแบบราคา เป็นต้น

11. ตีเทรนไลน์แบบไหนถึงจะรู้ว่าผิดหรือถูก

การตีกราฟก็เหมือนกับการใช้จินตนาการจากประสบการณ์ของผู้ใช้ ไม่มีกฎตายตัว คุณจะรู้ว่าที่คุณตีมันผิดหรือถูกก็ต่อเมื่อตลาดเฉลยแล้วเท่านั้น เพียงแต่ถ้าคุณขยันทำการบ้าน ตีกราฟบ่อย ๆ คุณจะมีโอกาสถูกมากขึ้น ผิดน้อยลง อยากเก่งไม่มีทางลัด

12. แนวรับแนวต้านตรงไหนสำคัญ

มันก็แบบเดียวกับการตีเทรนไลน์นั่นแหละ คุณฝึกบ่อย ๆ คุณจินตนาการเรื่อย ๆ คุณจะแม่นยำขึ้นเอง

13. หาอัพไซด์ ดาวน์ไซด์ กี่ % จากไหน

วิธีหาก็ง่ายแสนง่าย คุณก็ดูซิว่าหุ้นตัวที่คุณสนใจปัจจุบันราคาเท่าไหร่ มีโอกาสวิ่งไปถึงราคาไหน และมีโอกาสลงไปถึงราคาไหน แล้วก็ดูแก็ปเอาว่ามันมีค่าเท่าไหร่ จากนั้นก็คำนวณเป็น % แค่นั้น แต่ถ้าจะเอาง่าย ๆ คุณก็ดูว่า มันขึ้นได้อีกกี่บาท ลงได้อีกกี่บาท ก็เหมือนกัน

14. ดู Bid-Offer จะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าจะทุบหรือเจ้าจะลาก

เรื่องบิดออฟ มันเป็นเรื่องของ จิตใจ ความช่างสังเกตุ และประสบการณ์ มันจะสอนกันได้มันต้องนั่งดูอยู่ด้วยกัน เอาง่ายๆ เลยนะ ขนาดผมนั่งเทรดอยู่กับเพื่อน ผมนั่งสอนเพื่อนดู นั่งพากย์เป็นฉาก ๆ เพื่อนผมยังไม่กล้าเคาะเลย ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ และอย่าลืมนะครับ บิดออฟ ที่คุณมองอยู่ไม่ได้มีแค่คุณกับเจ้ามือ มีคนอีกมากมายที่เล่นหุ้นอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเจ้ามืออาจจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ได้ แต่เป็นพวกคุณเล่นกันเองคิดกันเองทั้งนั้น แล้วก็คิดต่าง ๆ นานา ว่าเป็นเพราะเจ้ามือ ที่สำคัญ คุณคิดอ่านเจ้า คุณไม่คิดบ้างหรอกว่า เจ้าเค้าก็อ่านคุณดักคุณเช่นกัน ดังนั้น มันไม่มีอะไรตายตัวหรอก เกมมันเปลี่ยนไปเรื่อย คุณต้องใช้เวลา และประสบการณ์กับมัน อย่ามานั่งจำเลย บิดหนาเจ้าจะทิ้ง ออฟหนาเจ้าจะลาก เสียเวลาเปล่าครับ

15. จังหวะซื้อ จังหวะขาย

ผมมันนักเก็งกำไร ดังนั้นง่าย ๆ เลย ผมซื้อเมื่อคิดว่าน่าจะกำไร ผมขายเมื่อได้กำไรแล้ว แค่นั้น ขายหมูช่างมัน ผิดทางคัทลอส ไม่มีอะไรมาก เป้าหมายมีไว้เป็นหลัก แต่ถ้าไม่ถึงก็พร้อมจะขายออกตลอดเวลา

16. รู้ได้อย่างไรว่าหุ้นจะขึ้น

ถ้าผมรู้ขนาดนั้น ผมรวยกว่า วอแรนซ์ บัปเฟต ไปละครับ ใครจะไปรู้ได้ครับว่าหุ้นจะขึ้นหรือไม่ขึ้น ผมเล่นไปตามตลาดเหมือนกัน ผมเล่นหุ้นในตัวที่ดูกราฟแล้วมันน่าจะมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง ย้ำ มันน่าจะ คือ ผมไม่รู้หรอก แต่จากประสบการณ์ผม ผมคิดว่า มันน่าจะไปได้ก็แค่นั้น ถ้ามันไม่ไป ผมก็รอ ถ้ามันหลุดแนวรับผมก็คัท แค่นั้น

17. ดูกราฟไทม์เฟรมไหนดีที่สุด

ไม่มีกราฟไทม์เฟรมไหนดีที่สุดครับ ที่สำคัญคือ นิสัยคุณ เหมาะกับไทม์เฟรมไหนมากกว่า ถ้าคุณใจร้อนก็ต้องเล่นไทม์เฟรมสั้น ๆ ถ้าคุณใจเย็นได้นาน ๆ ไทม์เฟรมก็ใหญ่ขึ้น

18. การซื้อ การขายหุ้น

ควรแบ่งไม้ทั้งการซื้อและขาย เพราะคุณไม่มีทางรู้หรอกว่า คุณซื้อแล้วมันจะขึ้นเลยไหม อย่าโลภ ดังนั้น เราต้องแบ่งไม้ซื้อตามแนวรับ ส่วนตัวผมจะแบ่งการเล่นอย่างน้อย 3 ไม้ตลอด ถ้าซื้อไม้แรกแล้วราคาวิ่งเลย ก็ค่อยดูว่าฟอลโล่เพิ่มอีกไม้ดีไหม หรือปล่อยไปก็ค่อยตัดสินใจตามประสบการณ์อีกที เวลาขายก็เช่นเดียวกัน

19. ผมใช้โปรแกรมอะไรในการดูกราฟ

โปรแกรมฟรีทั่วไป หรือใน Web ผมใช้ได้หมดแหละครับ เพราะผมใช้เครื่องมือพื้นฐานง่าย ๆ มันมีให้ใช้ฟรีทุกที่นั่นแหละ

20. วอลุ่มสำคัญไหม

สำคัญครับ แต่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมาก อย่างที่หลาย ๆ คนถามกัน เพราะอะไร เพราะผมคิดว่าทุกเครื่องมือมีความสำคัญตามหน้าที่ของมัน ดังนั้นผมจะดูภาพรวมมากกว่า การยึดติดกับเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง มันทำให้เราไม่เป็นกลาง และอาจจะวิเคราะห์ผิดพลาดได้

21. ผมใช้อัลกอริทึ่มใดในการคัดกรองหุ้นหลายร้อยตัวออกมา

ผมมันไอ้ทึ่มครับ ไอ้เครื่องมือยาก ๆ ผมไม่ใช้หรอก ผมใช้ของง่าย ๆ นี่แหละ เปิด สตรีมมิ่ง แล้วก็ดูหุ้นที่โผล่ ๆ มาในลิสต์ แล้วก็ตีกราฟ จบครับ

22. ทำไมผมหาหุ้นได้เร็ว และได้ทุกวัน

เพราะผมขยันไง ผมทำการบ้านทุกวัน ผมทำไดอารี่ทุกวัน ผมจดบันทึกทุกวัน และผมดูกราฟทุกวัน วันนึงไม่ต่ำกว่า 6-8 ชม. ตลอดเวลา 10 กว่าปีครับ ผมไม่เคยอ้างว่าผมไม่มีเวลา คนที่รู้จักผมเป็นการส่วนตัวจะรู้ว่าผมงานเยอะและรับผิดชอบเยอะมาก แต่ผมจะใช้เวลาว่างในการหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ ๆ ต่างจากคนอื่นที่หลังจากว่างงานก็เอาไปทำกิจกรรมอื่น ๆ แล้วอ้างว่าไม่มีเวลาดูกราฟ เวลาคุณไปทำกิจกรรมอื่น มันพัฒนาคุณด้านอื่น แต่ถ้าคุณเอาเวลาทำกิจกรรมอื่นนั้นมาให้กราฟ คุณก็จะพัฒนาเรื่องกราฟ แค่นั้นเอง เลิกอ้างนะ

23. จะรู้ได้ไงว่าเบรคจริงเบรคหลอก

ไม่มีใครรู้ครับ นอกจากเจ้ามือ ดังนั้นสิ่งที่คุณทำได้คือ วางแผนการเล่นทั้งสองทางครับ

24. ควรจะคัทลอสที่กี่ %

ถ้าจะมองเป็น % ต้องอยู่ที่คุณเองครับ ไม่มีใครตอบแทนคุณได้ คุณควรจะรู้ความเสี่ยงที่คุณรับเองได้นะครับ ส่วนผมไม่ได้มอง % ผมมองตามแนวที่ผมวางไว้ ว่าจะต้องคัทลอสถ้าราคามันลงมาเท่าไหร่ครับ

25. ความรู้ใน Youtube ใน Internet มีมากจนไม่รู้จะศึกษาอะไร หรือ อันไหนถูกนิสัย

นิสัยคุณ คุณยังไม่รู้ แล้วผมจะไปรู้กับคุณไหม อันนี้คุณต้องถามตัวคุณเองครับ ถ้ายังตอบไม่ได้ ก็ดูมันเยอะ ๆ ศึกษามันให้หมด จนคุณรู้สึกได้แหละว่า แบบไหนที่คุณชอบ คุณก็เลือกเน้นแนวนั้น มันไม่ต่างอะไรกับคุณเลือกวิชาเรียนหรอกครับ

26. อยากอยู่รอดในตลาดในทุกสภาวะทำอย่างไร

ง่ายมากครับ คุณก็ต้องพัฒนาตัวเองตลอดไปเช่นกัน

27. เล่น TFEX หรือ หุ้น DW ดีไหม

สำหรับมือใหม่ผมไม่แนะนำครับ หมดตัวง่าย ๆ เลยนะ

28. เครื่องมือไหน กราฟแบบไหน หรืออะไร ใช้ดีสุด แม่นยำสุด

ไม่มีครับ ใช่ฟังไม่ผิด ไม่มีครับ ตลาดมีการปรับตัวตลอดเวลา ดังนั้นไม่มีอะไรดีที่สุด แต่เราต้องใช้ทุกสิ่งรวมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราเรียกมันว่า การทำงานเป็นทีมครับ

29. ผมเขียนหนังสือไหม

ตอนนี้มี 1 เล่มครับ ชื่อว่า “สแกนหุ้น Mindset เทรดยังไงให้ได้กำไร”

30. ผมเคยออกรายการอะไรไหม

ไม่เคยออกรายการครับ

 

“ผมเล่นหุ้นมากี่ปีมีประสบการณ์อย่างไรบ้าง กว่าจะถึงวันนี้”

ผมเล่นหุ้นมา 13 ปี ย่าง 14 ปีครับ เริ่มแรกไม่รู้อะไรเลย แม้แต่จะเปิดบัญชียังไง ผมหาความรู้ทุกอย่างเอาเองจาก Internet ครับ ค่อย ๆ เรียนรู้ศัพท์ทุกคำ จดจำทุกเครื่องมือที่มี อีกทั้งยังหาอ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับหุ้น จนผมรู้ตัวว่าผมชอบอ่านสิ่งที่เป็นเทคนิคอลมากกว่าพื้นฐาน ผมจึงเริ่มเน้นอ่านทางเทคนิคอล แล้วผมรู้สึกสนุกกับมันผมจึงทำมันเรื่อย ๆ ทุก ๆ วัน กราฟผมก็ดูเอาตาม Internet นี่แหละ หัดดูที่คนอื่นตี ศึกษาจากที่คนอื่นวิเคราะห์ แล้วหัดจดจำ หัดอ่านบ้าง แล้วจดบันทึกทุกวัน แล้วดูว่าสิ่งที่เราคิดมันผิดหรือถูกเมื่อตลาดเฉลย หากผิด ก็หาว่าผิดเพราะอะไร แล้วก็ฝึกฝนแก้ใหม่เรื่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกทุก ๆ วัน จากนั้นก็หาความรู้ใหม่ ๆ มาประกอบมาผสมผสานกับความรู้ที่ผมเองมี ผมไม่เคยคิดก็อปปี้ใคร คิดลอกใคร ผมพยายามหาทางของผมเอง หาทางเล่นแนวเทคนิคอลของผมเอง เพราะผมเชื่อว่านิสัยแต่ละคนไม่เหมือนกันฉันใด มุมมองทางเทคนิคอลก็ไม่มีใครเหมือนกันฉันนั้น อย่างมากก็แค่คล้ายคลึงกันเท่านั้น

ผมเข้าตลาดช่วง 800 จุด เงินเริ่มต้นไม่กี่แสน แรก ๆ ได้กำไร แล้วก็เติมเงินลงไปรวม ๆ แล้ว 3 ล้านบาท แล้วตลาดเกิดแพนิค เงินต้น 3 ล้าน และกำไรต่างหาก หมดเกลี้ยงเหลือ 3 แสน ผมค่อย ๆ เล่นสะสมใหม่ทีละนิด ๆ ทำการบ้านหนักขึ้น เรียกได้ว่าต้องการแก้แค้นจนเสพติดกราฟหนักมาก ใช่หนักมากขึ้นหลายกิโลเลย เพราะนั่งอ่าน และดูกราฟทั้งวันทั้งคืนเมื่อมีเวลาว่าง แทบไม่ได้ทำกิจกรรมผ่อนคลายอย่างอื่นเลย มีแค่ งาน หน้าที่ และกราฟ เท่านั้น ตอนนั้นในชีวิตต้องการเอาเงินคืนจากตลาด และอยากอยู่รอด แล้ววันนึงผมก็กลับมาได้ แต่แล้วก็เริ่มเข้าสู่บทเรียนใหม่

ผมได้โอกาสมีกลุ่มหุ้นครั้งแรก ๆ ที่เข้ามาในตลาดทาง facebook สรุป ผมขาดทุนยับเพราะถูกหลอก ผมโง่เพราะเชื่อคนอื่นแบบนี้อีก 2 ครั้ง เท่ากับผมล้มในตลาดมาแล้ว 3 ครั้ง

ผมพยายามใหม่จนกลับมาได้จนวันนี้ วันที่ผมไม่เชื่อใครอีก ผมเชื่อแค่ตัวผมเอง และกราฟที่ผมอ่านเท่านั้น ใครจะอินไซด์อะไรมาก็ตาม ถ้าผมเปิดกราฟอ่านตามเกมไม่เข้าใจผมไม่เล่น ผมยอมตกรถ

และเพราะผมถูกหลอกให้เจ๊งมาหลายรอบ มาวันนี้ วันที่ผมกลับมายืนได้อย่างเต็มภาคภูมิ และหาเงินจากตลาดได้ทั้งขึ้นและลง ผมจึงตั้งใจตั้งมั่นว่า ผมจะทำเพจหุ้นให้ความรู้แก่รายย่อย และคนใหม่ ๆ ที่เข้ามาในตลาด ผมไม่อยากเห็นใครล้มและถูกหลอกอย่างที่ผมเคยโดนกระทำมา ผมไม่อยากให้ใครมาหาเงินจากรายย่อยรายใหม่แบบเมื่อก่อน ผมไม่อาจแก้ปัญหาทั้งหมดได้ แต่ถ้าผมได้ลดปัญหาที่มีสัก 1% ผมก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยผมก็ได้ทำอะไรตอบแทนสังคมและตลาดหุ้นที่ทำให้ผมมีทุกอย่างในวันนี้

ผมโชคดีที่ล้มแล้วยังลุกขึ้นมาได้ มันใช้ความพยายามอย่างหนักมากเลยนะ ผมไม่อยากให้ใครล้มอย่างผม เพราะเค้าเหล่านั้นอาจจะไม่โชคดีอย่างผม ผมจึงพูดตรง พูดแรงและมักจะเน้นเตือนมากกว่าจะมาอ้อล้อพูดจาไพเราะ เพื่อหวังให้ใครมาชื่นชอบผม

พวกคุณไม่ต้องรักผม แต่ผมขอให้พวกคุณเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ที่ผมมีทั้งหมดที่ผมถ่ายทอดไป และเอาไปหลอมหลวมเป็นความสามารถของคุณเอง ให้คุณเก่งขึ้นและอยู่รอดได้ก็พอ

สรุป

ตลาดหุ้นผลตอบแทนสูง ถ้าคุณอยากได้ผลตอบแทนที่งดงามเหล่านั้น คุณก็ต้องใช้ความพยายาม ต้องทุ่มเท และให้เวลากับมันมากๆ อยากเก่งอยากรวยในตลาดหุ้นไม่มีทางลัด ทางลัดมักเป็นกลลวงเพื่อหาเงินจากคุณ

อ่อ ผมเคยบอกแล้ว ผมหาหุ้นได้ ผมจะมาแบ่งแนะนำตัวที่ผมไม่ได้เล่น ดังนั้นหุ้นที่ผมเล่นกับหุ้นที่ผมแนะนำ เป็นคนละตัวกันนะครับ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็กันไว้เผื่อใครดักทุบผมไง และเพื่อความสบายใจของตัวผมเองด้วย

#รักนะสแกนหุ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *